เดือดร้อนหนัก ! ปชช. 1.5 ล้านคน ไม่มีไฟฟ้าใช้หลัง ‘พายุถล่มสหรัฐ’
ประชาชนในสหรัฐฯ กว่า 1.5 ล้านคน ขาดแคลนไฟฟ้าใช้หลังพายุถล่มพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 9 คน
วันที่ 5 มี.ค.สำนักข่าวต่างประเทศรายงานข่าว กรณีพายุถล่มพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ ประชาชนต้องเผชิญภัยพิบัติน้ำท่วมอย่างหนัก รวมถึงประชาชนมากกว่า 1.5 ล้านคนได้รับความเดือดร้อน ไม่มีไฟฟ้าใช้ และมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 9 คน
รายงานระบุว่า ประชาชนที่อาศัยอยู่ทางชายฝั่งรัฐนิวอิงแลนด์ เผชิญเหตุน้ำท่วมอย่างหนักติดต่อกันสองวัน หลังมีพายุพัดถล่มทำให้ต้นไม้กับเสาไฟฟ้าหักโค่น
ทั้งนี้เมื่อช่วงบ่ายวันเสาร์ที่ 3 มี.ค. ตามเวลาท้องถิ่น ผู้ว่าการรัฐแมสซาจูเสทส์และผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก ประกาศภาวะฉุกเฉิน หลังจากที่รัฐเวอร์จิเนียกับแมรี่แลนด์ ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินไปเมื่อวันศุกร์ ประชาชนมากกว่า 1.5 ล้านคน ไม่มีไฟฟ้าใช้ และการที่เกิดน้ำท่วมและลมกระโชกแรง ได้เป็นอุปสรรคต่อความพยายามแก้ปัญหาไฟฟ้าดับ ซึ่งการประกาศภาวะฉุกเฉินจะช่วยให้รัฐเหล่านี้ ได้เข้าถึงทรัพยากรของรัฐบาลกลาง
ทว่าพายุที่รุนแรงพอ ๆ กับเฮอร์ริเคน โดยพัดด้วยความเร็วลม 145 ก.ม./ช.ม. ส่งผลให้น้ำทะเลหนุนและไหลทะลักเข้าสู่ถนนหลายสายในเมืองบอสตันและเมืองชายฝั่งอีกหลายแห่ง
ที่มา www.cnbc.com
ประชาชนในสหรัฐฯ กว่า 1.5 ล้านคน ขาดแคลนไฟฟ้าใช้หลังพายุถล่มพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 9 คน
วันที่ 5 มี.ค.สำนักข่าวต่างประเทศรายงานข่าว กรณีพายุถล่มพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ ประชาชนต้องเผชิญภัยพิบัติน้ำท่วมอย่างหนัก รวมถึงประชาชนมากกว่า 1.5 ล้านคนได้รับความเดือดร้อน ไม่มีไฟฟ้าใช้ และมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 9 คน
รายงานระบุว่า ประชาชนที่อาศัยอยู่ทางชายฝั่งรัฐนิวอิงแลนด์ เผชิญเหตุน้ำท่วมอย่างหนักติดต่อกันสองวัน หลังมีพายุพัดถล่มทำให้ต้นไม้กับเสาไฟฟ้าหักโค่น
ทั้งนี้เมื่อช่วงบ่ายวันเสาร์ที่ 3 มี.ค. ตามเวลาท้องถิ่น ผู้ว่าการรัฐแมสซาจูเสทส์และผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก ประกาศภาวะฉุกเฉิน หลังจากที่รัฐเวอร์จิเนียกับแมรี่แลนด์ ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินไปเมื่อวันศุกร์ ประชาชนมากกว่า 1.5 ล้านคน ไม่มีไฟฟ้าใช้ และการที่เกิดน้ำท่วมและลมกระโชกแรง ได้เป็นอุปสรรคต่อความพยายามแก้ปัญหาไฟฟ้าดับ ซึ่งการประกาศภาวะฉุกเฉินจะช่วยให้รัฐเหล่านี้ ได้เข้าถึงทรัพยากรของรัฐบาลกลาง
ทว่าพายุที่รุนแรงพอ ๆ กับเฮอร์ริเคน โดยพัดด้วยความเร็วลม 145 ก.ม./ช.ม. ส่งผลให้น้ำทะเลหนุนและไหลทะลักเข้าสู่ถนนหลายสายในเมืองบอสตันและเมืองชายฝั่งอีกหลายแห่ง
ภาพในอดีตที่ ‘พายุถล่มสหรัฐ’
สำนักงานพยากรณ์อากาศแห่งชาติ หรือ NWS ระบุว่า พายุได้อ่อนกำลังลงในวันอาทิตย์รวมถึงฝนและหิมะได้เบาบางลง ขณะที่เหตุน้ำท่วมและคลื่นสูงอาจส่งผลต่อพื้นที่ชายฝั่งตั้งแต่รัฐเมน, รัฐแมสซาจูเสทส์, รัฐโร้ด ไอส์แลนด์, รัฐลอง ไอส์แลนด์และรัฐนิวยอร์กที่มา www.cnbc.com